ท่ามกลางสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ระบาดหนักในประเทศไทย ประชาชนต้องกักตัวอยู่ในที่พักอาศัยของตนมากขึ้น ร้านอาหารก็จำกัดเพียงการซื้อกลับบ้าน การให้บริการสั่งอาหารและสินค้าทางออนไลน์จึงมีการใช้สูงขึ้นมากด้วย เป็นช่องทางที่ช่วยให้การใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย หลีกเลี่ยงการสัมผัสและลดการแพร่กระจายเชื้อ ในทางกลับกันมีปริมาณขยะพลาสติกที่เป็นถุงพลาสติก กล่องพลาสติก และพลาสติกใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเพิ่มขึ้นจากเดิม 1,500 ตันต่อวันเป็น 6,300 ตันต่อวัน ซึ่งเป็นปัญหาและสิ่งท้าทายของประเทศไทยที่มุ่งจะลดปริมาณขยะและมลพิษจากพลาสติกใช้แล้วทิ้งให้เหลือศูนย์ตาม Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573
การส่งเสริมบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคตามหลัก 7R ได้แก่
7R จึงยังเป็นหลักการที่ดี มีประสิทธิภาพและเป็นทางเลือกการลดขยะพลาสติกในช่วงวิกฤต โควิด 19 ที่จะช่วยให้มีการตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนให้รู้เท่าทันการจับจ่ายซื้อสินค้าของตนเอง มีการไตร่ตรองมองหาสิ่งอื่นที่มีอยู่หรือความจำเป็นก่อนการตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าทุกครั้ง จะช่วยลดมลพิษขยะพลาสติกลงได้อย่างมาก อาจมีเพียงจำนวนเล็กน้อยมากที่ต้องไปอยู่ในหลุมฝังกลบและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ควบคู่ร่วมไปกับการบริหารจัดการขยะพลาสติกโดยมาตรการทางกฎหมาย ให้ประเทศไทยไม่มีขยะพลาสติกใช้แล้วทิ้ง ไม่ก่อมลพิษสิ่งแวดล้อมในอนาคต ไม่เป็นประเทศอันดับ 5 ของโลกที่สร้างขยะพลาสติกมากที่สุด และก้าวสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน
ที่มา :
Copyright © 2022 National Assembly Library of Thailand
The Secretariat of the House of Representatives
1111 Samsen Road, Thanon Nakhon Chai Si, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND
Tel: +66(0) 2242 5900 ex 5711, 5714, 5721-22 Fax: +66(0) 2242 5990
Email: [email protected]