มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้

Script Writer
พิมพ์ธัญญา ฆ้องเสนาะ, วิทยากรปฏิบัติการ กลุ่มงานบริการวิชาการ 2 สำนักวิชาการ
Broadcast Date
2021-05
Publication type
Publisher
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สำนักวิชาการ
สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา

การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจจำนวนมากได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างและยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม แม้ในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐจะดำเนินมาตรการต่าง ๆ ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบนั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว และต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถกลับมาประกอบธุรกิจได้ ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ออกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส. 4/2564 ลงวันที่ 19 เมษายน 2564 เรื่อง มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ ภายใต้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 ภายในวงเงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท

“มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้” หรือ มาตรการ “พักทรัพย์ พักหนี้” (Asset Warehousing) มีวัตถุประสงค์ลดภาระทางการเงินหรือภาระหนี้ของผู้ประกอบธุรกิจ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจโอนทรัพย์สินชำระหนี้แก่สถาบันการเงินโดยมีเงื่อนไขซื้อคืนในราคาที่โอนไปและมีสิทธิเช่าทรัพย์สินนั้นกลับไปใช้ประกอบธุรกิจ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีสินทรัพย์เป็นหลักประกันอยู่กับสถาบันการเงินก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 และต้องไม่เป็นลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็นสินทรัพย์จัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน จัดชั้นสงสัย จัดชั้นสงสัยจะสูญ หรือจัดชั้นสูญ หรือ NPL ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยสถาบันการเงินและลูกหนี้ต้องสมัครใจทั้งสองฝ่ายในการตีโอนทรัพย์หลักประกันเพื่อชำระหนี้ โดยมีเงื่อนไขตามสัญญามาตรฐาน ได้แก่ 1) ลูกหนี้มีสิทธิในการซื้อทรัพย์สินหลักประกันคืนภายในระยะเวลา 5 ปี เป็นลำดับแรก และราคาซื้อทรัพย์สินที่รับโอนซึ่งสถาบันการเงินจะขายคืนให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องไม่สูงกว่าราคาที่รับโอนไว้ รวมกับค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาทรัพย์สินดังกล่าว (Carrying cost) อีกไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี ของราคาที่รับโอน ซึ่งสถาบันการเงินอาจเก็บค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์สินเพิ่มเติมได้ตามที่จ่ายไปจริงและสมควรแก่เหตุ 2) ลูกหนี้มีสิทธิในการเช่าทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันได้เป็นลำดับแรก โดยสถาบันการเงินจะต้องนำเงินค่าเช่าที่ได้รับชำระในระหว่างสัญญาเช่าไปหักจากราคาขายทรัพย์สินนั้นคืน และไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์สินเพิ่มเติม หากลูกหนี้ผู้เช่าเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินดังกล่าวสำหรับกลไกของมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ หรือ มาตรการ “พักทรัพย์ พักหนี้” นั้น เป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจเพื่อลดภาระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถประคองกิจการ รักษาการจ้างงาน และมีโอกาสกลับมาเปิดกิจการในอนาคต โดยราคาทรัพย์สินยังไม่ถูกกดจนทำให้ราคาในตลาดลดลง นอกจากนี้มาตรการดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากภาครัฐ เช่น สิทธิประโยชน์ทางภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการตีโอนทรัพย์ชำระหนี้ การลดหย่อนค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์และอาคารชุด และการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ เป็นต้น

มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ หรือ มาตรการ “พักทรัพย์ พักหนี้” จึงเป็นมาตรการกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจที่ขาดรายได้ไม่พอชำระหนี้และค่าใช้จ่ายหมุนเวียนต่าง ๆ แต่คงยังมีศักยภาพในการรักษาธุรกิจและมีทรัพย์สินเป็นหลักประกันไว้ เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินกิจการได้อีกครั้ง เมื่อสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ลดความรุนแรงและบรรเทาลงตามลำดับ

สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจและเป็นผู้มีคุณสมบัติตามมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ หรือ มาตรการ “พักทรัพย์ พักหนี้” สามารถติดต่อสถาบันการเงินได้ หรือหากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หมายเลขโทรศัพท์ 02-283-6112 

ภาพปก