เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทยได้เริ่มระบาดมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 จนกระทั่งช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2564 การแพร่ระบาดกลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง ทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นวงกว้าง ภาคประชาชนและภาคธุรกิจต้องประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ กล่าวคือ ไม่มีเงินมาชำระหนี้จนในที่สุดเจ้าหนี้ต้องดำเนินคดีลูกหนี้ต่อศาลเพื่อที่จะให้ศาลบังคับลูกหนี้ชำระหนี้ ซึ่งตามระบบกฎหมายของประเทศไทยเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามกระบวนพิจารณาในกฎหมายลักษณะต่าง ๆ ได้แก่ ฟ้องร้องบังคับคดีแพ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฟ้องร้องคดีล้มละลาย และคดีฟื้นฟูกิจการโดยการขอรับชำระหนี้ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในกฎหมายลักษณะต่าง ๆ พอที่จะแยกความแตกต่างที่สำคัญระหว่างคดีแพ่ง คดีล้มละลาย คดีฟื้นฟูกิจการ ได้ดังนี้
1. คดีแพ่งเป็นเรื่องระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ที่ทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้อันเป็นสิทธิเฉพาะตัวของเจ้าหนี้จึงเป็นประโยชน์เฉพาะบุคคลไม่ใช่ประโยชน์ส่วนรวมสามารถยอมความได้
คดีล้มละลายเป็นคดีที่ฟ้องให้จัดการทรัพย์ของลูกหนี้เพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของส่วนรวม จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนไม่สามารถยอมความได้
คดีฟื้นฟูกิจการเป็นคดีที่ให้กิจการของลูกหนี้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้และให้เจ้าหนี้ทั้งหลายได้รับชำระหนี้ไม่น้อยกว่ากรณีที่ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายซึ่งเป็นผลประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนไม่สามารถยอมความได้
2. การฟ้องคดีแพ่งหนี้ต้องถึงกำหนดชำระ
การฟ้องคดีล้มละลายหรือการยื่นคำร้องคดีฟื้นฟูกิจการสามารถฟ้องหรือร้องขอได้ไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม
3. คดีแพ่งโจทก์สามารถถอนฟ้องทั้งก่อนและหลังจำเลยยื่นคำให้การ ถ้าถอนฟ้องภายหลังจำเลยยื่นคำให้การศาลอนุญาตหรือไม่ก็ได้
คดีล้มละลาย เจ้าหนี้จะถอนฟ้องไม่ได้เว้นแต่ศาลจะอนุญาต
คดีฟื้นฟูกิจการจะถอนคำร้องไม่ได้ เว้นแต่ศาลจะอนุญาต อย่างไรก็ตาม ศาลไม่สามารถอนุญาตถอนคำร้องได้ถ้าได้มีคำสั่งฟื้นฟูกิจการแล้ว
4. คดีแพ่งสามารถนำหนี้ที่มีมูลจากละเมิดซึ่งเป็นหนี้ที่ไม่แน่นอนมาฟ้องได้ ส่วนคดีล้มละลายและคดีฟื้นฟูกิจการต้องเป็นหนี้กำหนดจำนวนแน่นอนในขณะที่ยื่นฟ้องหรือยื่นร้องขอ
5. การขอรับชำระหนี้ของคดีแพ่งโดยปกติเมื่อศาลพิพากษาให้เจ้าหนี้ชนะคดี เจ้าหนี้มีสิทธิให้เจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์สินของลูกหนี้แล้วนำมาขายทอดตลาด เพื่อนำเงินที่รวบรวมได้มาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้รายนั้น
การขอรับชำระหนี้คดีล้มละลาย เจ้าหนี้ที่เป็นโจทก์หรือไม่เป็นโจทก์ต้องยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดสองเดือนนับแต่วันโฆษณาพิทักษ์ทรัพย์
การขอรับชำระหนี้คดีฟื้นฟูกิจการ เจ้าหนี้ต้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันโฆษณาตั้งผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ
Copyright © 2022 National Assembly Library of Thailand
The Secretariat of the House of Representatives
1111 Samsen Road, Thanon Nakhon Chai Si, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND
Tel: +66(0) 2242 5900 ex 5714, 5715, 5721-22 Fax: +66(0) 2242 5990
Email: library@parliament.go.th