"โครงการช้อปดีมีคืน 2566" เป็นหนึ่งในมาตรการของรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศด้วยการที่ประชาชนผู้มีหน้าที่เสียภาษีสามารถนำคำใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าหรือบริการ รวมถึงการเติมน้ำมันที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566 มาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยหวังว่าการใช้จ่ายภายในประเทศจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสนับสนุนการขายจากร้านค้าต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายลดหย่อนภาษีดังกล่าวของรัฐบาล
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการซ้อปดีมีคืน ปี 2566 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนคนไทย โดยโครงการช้อปดีมีคืน 2566 มุ่งเน้นการจับจ่ายสินค้าและบริการเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมจากค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน และอื่น ๆ โดยสินค้าที่เข้าเกณฑ์การลดหย่อนภาษีของโครงการช้อปดีมีคืน 2566 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. สินค้า หรือบริการ ที่ผู้ประกอบการได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยจะต้องเป็นสินค้าหรือบริการภายในประเทศเท่านั้น เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าสินค้ากลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ค่าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ค่าซ่อมรถ ค่ายารักษาโรคและอาหารเสริม เป็นต้น
2. สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) จากผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว 5 ประเภท คือ อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ และเครื่องประดับตกแต่งตลอดจนสมุนไพรที่ไม่ใช่ยาและอาหาร
3. หนังสือ หรือ E-book แต่ไม่รวมถึงนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ สิทธิลดหย่อนภาษีในโครงการช้อปดีมีคืน 2566 ไม่รวมการซื้อสินค้าและบริการ ได้แก่
1) ค่าสุรา เบียร์ ไวน์
2) ยาสูบ
3) ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
4) ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
5) ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
6) ค่าที่พักโรงแรมที่จ่ายให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม
7) ค่าสาธารณูปโภค น้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และสัญญาณอินเทอร์เน็ต
8) ค่าเบี้ยประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ และประกันรถยนต์
9) ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว
ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2566 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ตลอดจนค่าซื้อทองคำแท่งค่ารักษาพยาบาล ค่าทำศัลยกรรม ค่าซื้อผัก ผลไม้สด และเนื้อสัตว์ รวมทั้งหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์
สำหรับหลักเกณฑ์ในการหักค่าลดหย่อนภาษีนั้น เมื่อซื้อสินค้าที่เข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2566 แล้วสามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (แต่ไม่รวมถึงคณะบุคคล/ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคล) โดยลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 30,000 บาทแรก โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป หรือใบรับ โดยใช้ได้ทั้งแบบกระดาษ หรือ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt
ส่วนที่ 2 ค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการ จำนวนอีกไม่เกิน 10,000 บาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีหรือใบรับ โดยใช้ได้เฉพาะ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น
ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปหรือใบรับที่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีในโครงการข้อปดีมีคืน 2566 ได้จะต้องมีรายละเอียดข้อความครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ประกอบด้วย
(1) คำว่า "ใบกำกับภาษี" ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
(2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษีและในกรณีที่ตัวแทนเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้ทอดตลาดเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียน ให้ระบุชื่อ ที่อยู่และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของตัวแทนนั้นด้วย
(3) ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
(4) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี)
(5) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
(6) จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าและหรือของบริการให้ชัดแจ้ง
(7) วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
(8) ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด
โครงการซ้อปดีมีคืน 2566 สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/ ภ.ง.ด.91) ที่จะยื่นระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม 2567 เท่านั้น
Copyright © 2022 National Assembly Library of Thailand
The Secretariat of the House of Representatives
1111 Samsen Road, Thanon Nakhon Chai Si, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND
Tel: +66(0) 2242 5900 ex 5714, 5715, 5721-22 Fax: +66(0) 2242 5990
Email: library@parliament.go.th