“การให้โดยเสน่หา” หมายถึง สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า “ผู้ให้” โอนทรัพย์สินของตนให้โดยเสน่หาแก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้รับ” และผู้รับยอมรับเอาทรัพย์สินนั้น การให้โดยเสน่หามีแนวความคิดมาจากหลักการ 4 หลัก คือ
หลักกฎหมายเกี่ยวกับการให้โดยเสน่หาของไทยที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้รับอิทธิพลมาจากหลักกฎหมายของฝรั่งเศส แต่ได้มีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสังคมไทย และได้นำมาบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 521-มาตรา 536 ซึ่งการให้โดยเสน่หาจะมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายได้ต้องมีองค์ประกอบ คือ
การให้โดยเสน่หาเมื่อมีผลสมบูรณ์แล้วเกิดผลทางกฎหมาย 2 ประการ คือ
1) ทรัพย์สินที่ให้ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับ ผู้รับมีสิทธิที่จะใช้สอยทรัพย์สินที่รับนั้นในฐานะเจ้าของทรัพย์ได้ทุกประการ และ 2) ผู้ให้ไม่สามารถถอนคืนการให้โดยเสน่หาได้ เว้นแต่ผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดอาญาอย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา หรือผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง หรือผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถจะให้ได้ ซึ่งถือเป็นการประพฤติเนรคุณต่อผู้ให้ตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม แม้ได้มีการประพฤติเนรคุณเกิดขึ้นแล้ว แต่ผู้ให้จะเพิกถอนการให้โดยเสน่หาไม่ได้หากเข้าเหตุยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ คือ
การให้โดยเสน่หาในบางกรณีจะต้องเสียภาษีที่เรียกว่า “ภาษีการรับให้” (Gift Tax) ซึ่งเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เรียกเก็บจากทรัพย์สินที่ให้หรือรับจากการรับให้โดยเสน่หาก่อนผู้ให้เสียชีวิตตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด คือ ในกรณีที่บิดาหรือมารดาโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายโดยไม่รวมถึงบุตรบุญธรรม บิดาหรือมารดาเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับในส่วนที่เกิน 20 ล้านบาท แต่กรณีของการให้สังหาริมทรัพย์นั้น ผู้ที่ได้รับเงินจากการอุปการะหรือจากการให้โดยเสน่หาจากบุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี โดยเสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับในส่วนที่เกิน 20 ล้านบาท และผู้ที่ได้รับเงินจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยาหรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณีจากบุคคลอื่น ซึ่งมิใช่บุพการี ผู้สืบสันดาน คู่สมรส เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี โดยเสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับในส่วนที่เกิน 10 ล้านบาท
การให้โดยเสน่หาเป็นสัญญาที่เกิดขึ้นได้ง่ายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกรณีของการให้สังหาริมทรัพย์เนื่องจากเพียงแค่ผู้ให้ส่งมอบกรรมสิทธิ์ด้วยความสมัครใจให้แก่ผู้รับ ซึ่งยอมรับเอาสังหาริมทรัพย์นั้นโดยไม่มีสิ่งใดตอบแทน การให้โดยเสน่หาก็มีผลสมบูรณ์แล้ว อย่างไรก็ตาม การให้โดยเสน่หาเป็นสัญญาที่มีหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ เช่น การให้อสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์พิเศษ การเพิกถอนการให้โดยเสน่หา และการเสียภาษีการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเผยแพร่ให้ความรู้ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้การให้โดยเสน่หามีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย และตรงตามความต้องการของคู่สัญญาอย่างแท้จริง
Copyright © 2022 National Assembly Library of Thailand
The Secretariat of the House of Representatives
1111 Samsen Road, Thanon Nakhon Chai Si, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND
Tel: +66(0) 2242 5900 ex 5714, 5715, 5721-22 Fax: +66(0) 2242 5990
Email: library@parliament.go.th