แต่เดิมบทบัญญัติในกฎหมายว่าด้วยศุลกากรที่ผ่านมาไม่ได้มีการกำหนดความหมายคำว่า “ของต้องกำกัด” ไว้เป็นการเฉพาะ แม้ว่ากฎหมายว่าด้วยศุลกากรได้มีการตราเป็นพระราชบัญญัติและประกาศใช้บังคับมาแล้วกว่า 22 ฉบับ แต่มีการกล่าวถึงคำว่า “ของต้องกำกัด” ในบทบัญญัติของพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติศุลกากรฉบับแรก เช่น มาตรา 27 ของพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 ได้กล่าวถึงสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดโทษของการนำเข้าส่งออกของต้องกำกัดไว้ จนกระทั่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 จึงได้มีการกำหนดนิยามคำว่า “ของต้องกำกัด” ไว้เป็นการเฉพาะ โดย ““ของต้องกำกัด” หมายความว่า ของที่มีกฎหมายกำหนดว่า หากจะมีการนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือนำผ่านราชอาณาจักร จะต้องได้รับอนุญาตหรือปฏิบัติให้ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย” ซึ่งผู้ที่นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรของต้องกำกัดจะต้องได้รับอนุญาตหรือปฏิบัติให้ครบถ้วนตามกฎหมายอื่น ๆ ที่ควบคุมดูแลสินค้านั้นได้กำหนดไว้ ผู้ใดนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรของต้องกำกัดโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายกำหนดไว้ให้ครบถ้วน จะมีความผิดตามกฎหมายที่ควบคุมดูแลสินค้านั้น และเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรด้วย
ตัวอย่างประเภทของต้องกำกัด เช่น
โดยมีหน่วยของรัฐทำหน้าที่ในการควบคุมดูแลการนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรสินค้าดังกล่าว ภายใต้การออกใบอนุญาตหรือปฏิบัติให้ครบถ้วนตามกฎหมายควบคุมดูแลสินค้าแต่ละประเภทได้กำหนดไว้ เช่น การนำเข้าส่งออกพืชและส่วนต่าง ๆ ของพืช ต้องได้รับใบอนุญาตจากกรมวิชาการเกษตรตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 หรือกรณีการนำเข้าส่งออกสัตว์มีชีวิตและซากสัตว์ต้องได้รับใบอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 หรือจากกรมประมงตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 หรือกรณีการนำเข้าส่งออกอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 เป็นต้น
ทั้งนี้ การควบคุมดูแลสินค้าเพื่อการนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรมีเหตุผลหลายประการซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับ
การนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือนำผ่านราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือปฏิบัติให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดไว้ นอกจากจะมีความผิดตามกฎหมายควบคุมดูแลสินค้านั้นแล้ว ยังมีความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามตามมาตรา 244 ของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งริบของนั้นก็ได้ ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ และความผิดฐานรับไว้ด้วยประการใด ๆ ตามมาตรา 246 ของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งรวมค่าอากรด้วยหรือทั้งจำทั้งปรับ
แม้ว่าการควบคุมการนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือนำผ่านราชอาณาจักรของต้องกำกัด จะเป็นอุปสรรคต่อการอำนวยความสะดวกทางการค้า แต่รัฐจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมดูแล เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศเป็นสำคัญ ดังนั้น การประกอบการค้าระหว่างประเทศ จึงควรศึกษากฎหมายศุลกากรและตรวจสอบกฎหมายที่ควบคุมดูแลสินค้านั้นด้วย ก่อนที่จะนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือนำผ่านราชอาณาจักร เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการกระทำความผิดตามกฎหมาย
Copyright © 2022 National Assembly Library of Thailand
The Secretariat of the House of Representatives
1111 Samsen Road, Thanon Nakhon Chai Si, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND
Tel: +66(0) 2242 5900 ex 5714, 5715, 5721-22 Fax: +66(0) 2242 5990
Email: library@parliament.go.th