ปลาหมอคางดำหรือปลาหมอสีคางดำ (Blackchin tilapia) เป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกามีลักษณะภายนอกคล้ายกับปลาหมอเทศ แต่เมื่อโตเต็มวัยจะสังเกตเห็นใต้ขากรรไกรล่างมีสีดำ มีความยาว 20-28 เซนติเมตร พบได้ทั่วไปในน้ำจืดและน้ำกร่อยและสามารถอาศัยอยู่ในน้ำเค็มช่วงกว้าง 0-45 ppt ปลาชนิดนี้สามารถผสมพันธุ์วางไข่ได้ตลอดทั้งปี โดยแม่ปลา 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ประมาณ 50-300 ฟอง หรือมากกว่าโดยขึ้นกับขนาดของแม่ปลา
ปลาหมอคางดำกินอาหารได้แทบทุกชนิดทั้งพืชและสัตว์ สัตว์น้ำวัยอ่อน แพลงตอน รวมถึงซากของสิ่งมีชีวิตและสามารถขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีความสามารถในการปรับตัวให้ทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้เป็นอย่างดี เมื่อแพร่กระจายในแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อเลี้ยงจะแย่งอาหาร และที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำประจำถิ่น โดยทำลายแหล่งวางไข่และกินสัตว์น้ำวัยอ่อนประจำถิ่น ทำให้จำนวนสัตว์น้ำประจำถิ่นลดลง นอกจากนี้ ยังมีรายงานที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ในปี 2534 ว่าปลาหมอคางดำเป็นแหล่งแพร่กระจายการติดเชื้อราไปยังปลาชนิดอื่น
ประเทศไทยได้มีการนำเข้าปลาหมอคางดำเมื่อปี 2553 เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงพันธุ์ อย่างไรก็ตาม มีรายงานพบการแพร่กระจายปลาหมอสีคางดำหลุดรอดเข้าบ่อเลี้ยงของเกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพชรบุรี สมุทรสาคร ราชบุรี ประจวบคิรีขันธ์ และชุมพร จึงได้มีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก นำผ่าน หรือเพาะเลี้ยง พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใดนำเข้า ส่งออก นำผ่าน หรือเพาะเลี้ยงปลา 3 ชนิด ได้แก่ ปลาหมอสีคางดำ ปลาหมอมายัน และปลาหมอบัตเตอร์ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมประมงหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมประมงมอบหมาย เพื่อประโยชน์ในการป้องกันอันตราย มิให้เกิดแก่สัตว์น้ำและระบบนิเวศ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2561 ซึ่งประกาศฉบับดังกล่าว มีแนวทางปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดปลาหมอสีคางดำยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและขยายเป็นวงกว้าง จากข้อมูลวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 พบการระบาดปลาหมอสีคางดำในพื้นที่กว่า 14 จังหวัด ตามบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ จันทบุรี ระยอง สมุทรปราการ กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และชลบุรี ส่งผลกระทบเชิงเศรษฐกิจต่อภาคการประมงและความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศ
จากผลกระทบที่เกิดจากปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอสีคางดำดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ภาครัฐจึงได้กำหนดมาตรการป้องกันและกำจัดปลาหมอสีคางดำ 5 มาตรการสำคัญ ประกอบด้วย
ตลอดจนกรมประมงได้มีโครงการวิจัยเรื่องการเหนียวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอสีคางดำ เพื่อควบคุมการแพร่ขยายพันธุ์ของปลาหมอสีคางดำด้วยหลักการทางพันธุศาสตร์ อีกทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มีการปรึกษาหารือต่อที่ประชุมสภา และตั้งกระทู้ถาม รวมถึงการเสนอญัตติ เพื่อติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำธรรมชาติ
Copyright © 2022 National Assembly Library of Thailand
The Secretariat of the House of Representatives
1111 Samsen Road, Thanon Nakhon Chai Si, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND
Tel: +66(0) 2242 5900 ex 5714, 5715, 5721-22 Fax: +66(0) 2242 5990
Email: library@parliament.go.th