“พื้นที่ชุ่มน้ำ” เป็นพื้นที่มีระบบนิเวศที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งเป็นแหล่งความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์นานาชนิด อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ ป้องกันน้ำท่วม ลดการพังทลายของหน้าดิน และรักษาความสมดุลทางธรรมชาติของระบบนิเวศโดยจากรายงานขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล คาดการณ์ว่าทุกทวีปทั่วโลกมีพื้นที่ชุ่มน้ำคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 8.3–10.2 ล้านตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 5,187–6,375 ล้านไร่ คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ1.6-2.0 ของพื้นที่โลกโดยในประเทศไทยมีพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างน้อย 36,616.16 ตารางกิโลเมตร หรือ 22,885,100 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 7.5 ของพื้นที่ประเทศไทย แบ่งเป็นพื้นที่น้ำจืดร้อยละ 44.8 และเป็นพื้นที่น้ำเค็มร้อยละ 55.2 ทั้งนี้ ปัจจุบันพบว่าพื้นที่ชุ่มน้ำของโลกเกือบร้อยละ 90 เสื่อมโทรมลงตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1700 ส่งผลให้ทั่วโลกได้ตระหนักถึงปัญหาการลดลงของพื้นที่ชุ่มน้ำจึงได้มีการประชุมรับรองอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำหรืออนุสัญญาแรมซาร์ (Convention on Wetlands of International Importance as Waterfowl Habitat or Ramsar Convention) เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศในการอนุรักษ์และยับยั้งการสูญเสียระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ในลำดับที่ 110 เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2541 โดยมอบให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติหน้าที่ประสานงานระดับชาติของอนุสัญญาฯ ซึ่งข้อตกลงหลัก ๆ ของประเทศที่เข้าร่วมในภาคีอนุสัญญาแรมซาร์ คือ ภาคีต้องคัดเลือกพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญเพื่อบรรจุในทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ ส่งเสริมการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ กำหนดและวางแผนการใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำอย่างชาญฉลาด และขอความร่วมมือให้ภาคีจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรู้และตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำ
จากการดำเนินงานของประเทศไทยได้คัดเลือกพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อบรรจุในทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ จำนวน 15 แห่ง ประกอบด้วย
จากการคัดเลือกและขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศหรือแรมซาร์ไซต์ของประเทศไทย เป็นการสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับชุมชนท้องถิ่นและประเทศให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก เป็นผลดีต่อการเพิ่มศักยภาพการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศระดับโลก เปิดโอกาสให้เกิดการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้มีการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับพื้นที่ชุ่มน้ำ ทำให้เกิดการจัดการอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมกับการใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด เพื่อให้พื้นที่ชุ่มน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศของประเทศไทยคงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป
Copyright © 2022 National Assembly Library of Thailand
The Secretariat of the House of Representatives
1111 Samsen Road, Thanon Nakhon Chai Si, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND
Tel: +66(0) 2242 5900 ex 5714, 5715, 5721-22 Fax: +66(0) 2242 5990
Email: library@parliament.go.th