มวยสากลเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สู้กันด้วยหมัดทั้งสองข้าง มีการจัดแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกสมัยโบราณตั้งแต่ 688 ปีก่อนคริสตกาล โดยนักมวยจะใช้สายหนังที่นุ่มพันรอบมือและแขนของตัวเองเพื่อป้องกัน มวยสากลมีความแตกต่างจากมวยไทยที่ในการชกกันจะใช้หมัดเป็นอาวุธเพียงอย่างเดียว ไม่มีการใช้ศอก เข่า และเท้าอย่างมวยไทยเป็นอาวุธ มวยสากลเกือบสูญหายไปพร้อมกับการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน แต่ได้ถูกกลับมาฟื้นฟูอีกครั้งในอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 17 มวยสากลสมัครเล่นได้มีพัฒนาการมาอย่างยาวนาน โดยเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่เก่าแก่และถูกบรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่นับตั้งแต่กีฬาโอลิมปิก 1904 ณ เมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา จนถึงปัจจุบัน ยกเว้นในกีฬาโอลิมปิก 1912 ณ กรุงสต็อกโฮล์ม สวีเดน เนื่องจากขัดกับกฎหมายของสวีเดน ส่วนมวยสากลสมัครเล่นหญิงถูกบรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก 2012 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
กฎกติกาการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในกีฬาโอลิมปิกได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยในเริ่มแรกนั้นถูกกำหนดให้มีการชก 3 ยก ยกละ 3 นาที และมีกรรมการให้คะแนน 2 คน โดยยึดการตัดสินแบบมวยสากลอาชีพเป็นหลัก ต่อมาในกีฬาโอลิมปิก 1952 ณ กรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ ได้เพิ่มกรรมการให้คะแนนจาก 2 คน เป็น 3 คน และเปลี่ยนวิธีให้คะแนนมาเป็นคะแนนระบบ 10 แต้มเหมือนมวยสากลอาชีพ จากนั้นในกีฬาโอลิมปิก 1960 ณ กรุงโรม อิตาลี ได้เพิ่มกรรมการให้คะแนนจาก 3 คน เป็น 5 คน ต่อมาในกีฬาโอลิมปิก 1984 ณ เมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ได้กำหนดให้นักกีฬาต้องสวมใส่เฮดการ์ด จนกลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของกีฬาชนิดนี้ จากนั้นในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 1992 ณ เมืองบาร์เซโลนา สเปน ได้มีการเปลี่ยนวิธีให้คะแนนระบบ 10 แต้ม เป็นการให้คะแนนตามจำนวนหมัดที่เข้าเป้า โดยให้กรรมการให้คะแนน 5 คน กดปุ่มทุกครั้งที่มีการชกเข้าเป้า และจะต้องกดปุ่ม 3 คนขึ้นไปถึงจะได้แต้มจากการชก และในกีฬาโอลิมปิก 1996 ณ เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา ได้มีการแสดงคะแนนบนจอโทรทัศน์ ต่อมามีผู้ชมการแข่งขันได้วิจารณ์ถึงคะแนนที่แสดงบนจอโทรทัศน์ว่าไม่ค่อยสนุกสนานมากนัก เพราะมีนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นบางคนที่พอรู้ว่าตัวเองมีคะแนนนำก็จะหนีจากการชกโดยไม่คิดที่จะชกแต่อย่างใด จึงส่งผลให้กีฬาโอลิมปิก 2012 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ได้เปลี่ยนการแสดงคะแนนให้เห็นเฉพาะตอนพักยกเท่านั้น จากนั้นในกีฬาโอลิมปิก 2016 ณ เมืองริโอเดอจาเนโร บราซิล ได้เปลี่ยนกลับไปใช้วิธีให้คะแนนระบบ 10 แต้ม มีกรรมการให้คะแนน 5 คน แต่คอมพิวเตอร์จะทำการสุ่มเอาคะแนนเพียง 3 คนเท่านั้น พร้อมกับให้นักกีฬามวยสากลสมัครเล่นชายถอดเฮดการ์ด
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในกีฬาโอลิมปิก ประเทศไทยได้รับเหรียญรางวัลจากกีฬามวยสากลสมัครเล่น เป็นเหรียญทอง จำนวน 4 เหรียญ ได้แก่
ส่วนเหรียญเงินได้รับจำนวน 4 เหรียญ ได้แก่
สหราชอาณาจักร ส่วนเหรียญทองแดงได้รับจำนวน 8 เหรียญ ได้แก่
จะเห็นได้ว่ากีฬามวยสากลสมัครเล่นของประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างมากในกีฬาโอลิมปิก ประชาชนชาวไทยได้ให้ความสนใจและติดตามกีฬามวยสากลสมัครเล่นอย่างมาก ถึงแม้ว่ากีฬามวยสากลสมัครเล่นจะประสบปัญหาอย่างหนัก คณะกรรมการโอลิมปิกสากลไม่บรรจุกีฬามวยสากลสมัครเล่นให้แข่งขันในกีฬาโอลิมปิก 2028 ณ เมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา แต่ทางสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยและต่างประเทศก็ได้ร่วมกันแก้ปัญหาตามแนวทางที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลแนะนำ เพื่อให้มวยสากลสมัครเล่นมีโอกาสได้ถูกบรรจุแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในครั้งหน้านี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย จะต้องปรึกษาหารือ ให้การสนับสนุนและร่วมกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแนวทางของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เพื่อให้กีฬามวยสากลสมัครเล่นได้กลับมาในกีฬาโอลิมปิก ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยได้กลับมาชิงเหรียญรางวัลกีฬามวยสากลสมัครเล่นจากกีฬาโอลิมปิกในอนาคต และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไป
Copyright © 2022 National Assembly Library of Thailand
The Secretariat of the House of Representatives
1111 Samsen Road, Thanon Nakhon Chai Si, Dusit, Bangkok 10300, THAILAND
Tel: +66(0) 2242 5900 ex 5714, 5715, 5721-22 Fax: +66(0) 2242 5990
Email: library@parliament.go.th