การลดวันต้องโทษจำคุกเป็นประโยชน์ที่รัฐให้แก่นักโทษเด็ดขาดที่มีความประพฤติดีในระหว่างต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำหรือทำงานสาธารณะหรือทำงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ ให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษหลังจากถูกจำคุกในเรือนจำมาระยะหนึ่ง ซึ่งการลดวันต้องโทษจำคุกที่จะได้รับขึ้นอยู่กับชั้นและระยะเวลาจำคุกของนักโทษเด็ดขาด และจำนวนวันที่ออกไปทำงานสาธารณะ ในกรณีที่นักโทษเด็ดขาดเหลือจำนวนวันต้องโทษจำคุกเท่ากับวันที่ได้รับการลดวันต้องโทษจำคุก อาจได้รับการพิจารณาให้ปล่อยตัวออกจากเรือนจำก่อนครบกำหนดโทษภายใต้เงื่อนไขการคุมประพฤติได้การลดวันต้องโทษจำคุกแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ
1) การลดวันต้องโทษจำคุกตามชั้นของนักโทษให้แก่นักโทษเด็ดขาดที่มีความประพฤติดีตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 52 (5) แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 โดยนักโทษเด็ดขาดที่จะได้รับการพิจารณาลดวันต้องโทษจำคุก ต้องได้รับโทษจําคุกตามคําพิพากษาถึงที่สุดมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 ของกําหนดโทษตามหมายศาลในขณะนั้นแล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า หรือไม่น้อยกว่า 10 ปีในกรณีที่ต้องโทษจําคุกตลอดชีวิตที่มีการเปลี่ยนโทษจําคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจําคุกมีกําหนดเวลา โดยนักโทษเด็ดขาดจะได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกตามชั้น คือ
2) การลดวันต้องโทษจำคุกเนื่องจากการออกไปทำงานสาธารณะนอกเรือนจำ เป็นการลดวันต้องโทษจำคุกให้แก่นักโทษเด็ดขาดที่มีคุณสมบัติตามที่ระเบียบของกรมราชทัณฑ์กำหนด ซึ่งได้รับการพิจารณาให้ออกไปทำงานสาธารณะหรือทำงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ เช่น การจัดทำบริการสาธารณะ งานช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย งานรักษาความสะอาด และงานบำรุงรักษาสถานที่หรือหน่วยงานราชการนอกเรือนจำ โดยจะได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกลงเท่ากับจำนวนวันที่ทำงานนั้น
นักโทษเด็ดขาดรายใดที่มีจำนวนวันลดวันต้องโทษจำคุกสะสมเท่ากับโทษจำคุกที่เหลืออยู่อาจได้รับการพิจารณาให้ปล่อยตัวออกจากเรือนจำได้ โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะทำความเห็นเสนอให้คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยลดวันต้องโทษจำคุกพิจารณาอนุมัติ ในการพิจารณาปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกนั้น คณะอนุกรรมการฯ ต้องคำนึงถึงพฤติการณ์แห่งคดีที่นักโทษเด็ดขาดได้กระทำ ความผิดที่ได้กระทำมาก่อน ระยะเวลาการคุมประพฤติ ความน่าเชื่อถือและความเหมาะสมของผู้อุปการะในการควบคุมดูแลนักโทษเด็ดขาดให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขจนกว่าจะพ้นโทษ ผลกระทบด้านความปลอดภัยของสังคม พฤติการณ์ในระหว่างถูกคุมขังที่น่าเชื่อว่าได้กลับตนเป็นคนดี และต้องผ่านการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู พัฒนาพฤตินิสัยมาแล้วประกอบด้วย
เมื่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยลดวันต้องโทษจำคุกอนุมัติให้ปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกแล้ว ให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์แจ้งผลการอนุมัติให้ผู้บัญชาการเรือนจำทราบ จากนั้นผู้บัญชาการเรือนจำต้องออกหนังสือสำคัญปล่อยตัวให้แก่นักโทษเด็ดขาดผู้นั้น และมีหนังสือแจ้งให้พนักงานคุมประพฤติในท้องที่ที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการปล่อยตัวเข้าไปพักอาศัยทราบด้วย โดยนักโทษเด็ดขาดผู้นั้นต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติในท้องที่ที่ไปพักอาศัยภายใน 3 วันนับแต่วันที่ได้รับการปล่อยตัว นักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกและได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมประพฤติตามที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดจนกว่าจะครบกำหนดโทษ โดยในระหว่างที่ถูกคุมประพฤตินี้หากนักโทษเด็ดขาดกระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมประพฤติที่กำหนดไว้ ก็จะถูกเพิกถอนการลดวันต้องโทษจำคุกและถูกส่งตัวกลับไปรับโทษในเรือนจำเช่นเดิม
การลดวันต้องโทษจำคุกเป็นประโยชน์ที่รัฐให้แก่นักโทษเด็ดขาด ถือเป็นมาตรการจูงใจให้นักโทษเด็ดขาดประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ดีและทำงานสาธารณะหรือทำงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ ได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลับตัวเป็นคนดีของสังคมด้วยความตั้งใจ เพื่อที่จะได้รับการเลื่อนชั้นและได้รับการลดวันต้องโทษสะสมในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีโอกาสได้รับการพิจารณาปล่อยตัวออกจากเรือนจำก่อนครบกำหนดโทษจำคุกภายใต้เงื่อนไขการคุมประพฤติ นอกจากนั้น ยังเป็นกลไกในการเตรียมความพร้อมนักโทษเด็ดขาดให้สามารถปรับตัวกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมได้อย่างปกติ และป้องกันไม่ให้กลับไปกระทำความผิดซ้ำอีกเมื่อพ้นโทษแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนักโทษเด็ดขาดที่มีวันลดวันต้องโทษจำคุกสะสมเท่ากับโทษจำคุกที่เหลืออยู่ อาจได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำก่อนครบกำหนดโทษได้ ดังนั้น ในการพิจารณาให้ปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดจึงต้องมีการกลั่นกรองอย่างรอบคอบและมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้นักโทษเด็ดขาดที่ยังคงเป็นอันตรายได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำก่อนเวลาอันควร
สงวนลิขสิทธิ์ © 2565 หอสมุดรัฐสภา
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
เลขที่ 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
โทรศัพท์ : +66(0) 2242 5900 ต่อ 5714, 5715, 5721-22 โทรสาร : +66(0) 2242 5990
อีเมล : library@parliament.go.th