แหล่งมรดกโลกในประเทศไทย

ผู้เรียบเรียง :
เปรม ถาวรประภาสวัสดิ์, วิทยากรชำนาญการ กลุ่มงานบริการวิชาการ 3 สำนักวิชาการ
วันที่ออกอากาศ :
2568-06
ประเภทสิ่งพิมพ์ :
หน่วยงานที่เผยแพร่ :
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สำนักวิชาการ
สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา

 

จากการที่มรดกโลกได้รับการคุกคามเพิ่มมากขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดการทำลายมรดกโลกจนเกิดความเสื่อมโทรมอย่างต่อเนื่องและรุนแรง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากต่อมรดกของมนุษยชาติ ในการประชุมใหญ่องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 17 ณ กรุงปารีส ที่ประชุมเห็นสมควรให้ก่อตั้งระบบการดำเนินงานในรูปแบบของอนุสัญญาระหว่างประเทศ และมีมติรับรองอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2515 ซึ่งอนุสัญญาดังกล่าวได้กำหนดคุณลักษณะและนิยามของสิ่งต่าง ๆ ที่ถือว่าเป็นมรดกโลกไว้ 2 ลักษณะ คือ มรดกทางวัฒนธรรม และมรดกทางธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ในเอกสารแนวทางการอนุวัตตามอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกได้เพิ่มเติมแหล่งมรดกที่มีคุณลักษณะแบบผสมระหว่างวัฒนธรรมและธรรมชาติ ดังนั้น ประเภทของแหล่งมรดกโลกจึงมีทั้งหมด 3 ประเภท คือ

  1. 1) มรดกโลกทางวัฒนธรรม
  2. 2) มรดกโลกทางธรรมชาติ และ
  3. 3) มรดกโลกแบบผสมระหว่างวัฒนธรรมและธรรมชาติ

ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ค.ศ. 1972 และต้องปฏิบัติตามแนวทางการอนุวัตตามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลก ซึ่งรัฐภาคีต้องดำเนินการคุ้มครอง ป้องกัน และอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ดังนั้น เพื่อให้มีกลไกในการกำหนดนโยบายและดำเนินงานให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าว รวมทั้งการประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองและอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติของประเทศอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพให้คงไว้ซึ่งคุณค่าโดดเด่น เป็นสากล จึงออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ พ.ศ. 2559 โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก (กอม.) มีอำนาจหน้าที่สำคัญในการเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการกําหนดให้มรดกทางวัฒนธรรม มรดกทางธรรมชาติ และมรดกแบบผสม ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยเป็นมรดกโลก ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลก เพื่อบรรจุไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น หรือบัญชีรายชื่อมรดกโลก เพื่อให้เป็นไปตามอนุสัญญาและสอดคล้องกับแนวทางการอนุวัตตามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลก

แหล่งมรดกโลกในประเทศไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีรายชื่อแหล่งมรดกโลกตั้งแต่ปี 2534-2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 8 แห่ง แบ่งเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม จำนวน 5 แห่ง และแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ จำนวน 3 แห่ง

แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย

  1. 1. เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร มีเมืองสุโขทัยเป็นเมืองหลวง เมืองศรีสัชนาลัยเป็นศูนย์กลางทางศาสนา มีวัดและศาสนสถานจำนวนมาก เมืองกำแพงเพชรเป็นปราการป้องกันการรุกรานตั้งอยู่ทิศใต้ ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2534
  2. 2. นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางทางการค้าในอดีต มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ส่งผลให้อยุธยาเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2534
  3. 3. แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง เป็นแหล่งอารยธรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์ พบหลักฐานการทำเกษตรกรรมในยุคเริ่มแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเครื่องใช้ที่ทำจากสำริด ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2535
  4. 4. เมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง เป็นเมืองที่มีคูเมืองกำแพงเมืองล้อมรอบ มีโบราณสถานและสระน้ำโบราณหลายแห่ง สะท้อนความรุ่งเรืองและมีความสำคัญมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2566
  5. 5. ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี ปรากฏร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จากการค้นพบภาพเขียนสีบนภูเขา นอกจากนี้ ยังพบการดัดแปลงเพิงหินธรรมชาติให้กลายเป็นศาสนสถานของผู้คนในวัฒนธรรมทวารวดี ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2567

แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย

  1. 1. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง เป็นป่าที่มีสภาพสมบูรณ์ มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์สัตว์จำนวนมาก ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2534
  2. 2. กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์สัตว์จำนวนมาก เป็นพื้นที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติที่สำคัญ ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2548
  3. 3. กลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นถิ่นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายของชนิดพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2564

แหล่งมรดกโลกในประเทศไทยถือได้ว่าเป็นแหล่งมรดกของคนไทยและคนทั่วโลก ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะต้องช่วยกันคุ้มครอง รักษา และอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกในประเทศไทย เพื่อให้แหล่งมรดกโลกยังดำรงอยู่และมีคุณค่าโดดเด่นเป็นแหล่งมรดกโลกของมนุษยชาติต่อไป

ภาพปก