ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้านด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว

ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้านด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว

หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงการจัดบ้านแบบ "คมมาริ" ซึ่งจะทำให้ผู้คนเปลี่ยนวิธีคิดและรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนไปอย่างสิ้นเชิง โดยการจัดบ้านแบบนี้มีองค์ประกอบอันเรียบง่ายแค่ 2 อย่าง ได้แก่ ตัดสินใจว่าจะทิ้งหรือไม่ และตัดสินใจว่าจะเก็บไว้ที่ไหน ไคลแม็กซ์สำคัญอยู่ที่ วิธีที่ดีที่สุดในการเลือกว่าจะเก็บหรือกำจัดของแต่ละชิ้นคือ ให้ถือของชิ้นนั้นเอาไว้ในมือแล้วถามตัวเองว่า "มันปลุกเร้าความสุขได้ไหม" ถ้าได้ให้เก็บไว้ แต่ถ้าไม่ได้ให้ทิ้งไป

การจัดของให้จัดตามหมวดหมู่ไม่ใช่ตามพื้นที่ ดังนั้น การรวบรวมของทุกชิ้นในหมวดหมู่เดียวกันมากองไว้รวมกัน จะทำให้คุณสามารถเปรียบเทียบของที่คล้าย ๆ กัน และตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเก็บมันไว้หรือไม่ โดยควรเริ่มต้นด้วยหมวดหมู่ง่าย ๆ เพราะในระหว่างที่ค่อย ๆ ไต่ระดับไปจัดการกับหมวดหมู่ที่ยากขึ้นนั้น คุณก็จะได้ขัดเกลาทักษะการตัดสินใจไปด้วย เสื้อผ้า เป็นหมวดหมู่ที่ง่ายที่สุด ต่างกับภาพถ่ายและจดหมาย ที่ไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางจิตใจสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นของที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกอีกด้วย คุณจึงควรจัดการเป็นลำดับท้าย ๆ นอกจากนี้ ภาพถ่ายมักปะปนกับข้าวของอื่น ๆ และโผล่มาในจุดที่คาดไม่ถึงเสมอ เช่น สอดอยู่ในหนังสือหรือปะปนอยู่ในเอกสาร

ปัญหาที่แท้จริงบรรดาข้าวของที่เราทิ้งไม่ลง ทั้ง ๆ ที่มันไม่ปลุกเร้าความสุขให้เลย เกิดจากการตัดสินใจ โดยแบ่งเป็น 2 แบบ 1. การตัดสินใจตามสัญชาตญาณ 2. การตัดสินใจตามหลักเหตุผล เหตุผลนี่เองทำให้คุณทิ้งสิ่งของต่าง ๆ ไม่ลง หากเจอปัญหานี้ให้ลองไตร่ตรองถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของสิ่งของชิ้นนั้นที่มันมีต่อชีวิตคุณ แล้วเริ่มจัดการข้าวของ เริ่มจาก 1. เสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า คนโด มาริเอะ บอกถึงเคล็ดการเก็บเสื้อผ้าหมดปัญหาเรื่องที่เก็บแค่พับให้ถูกวิธี จากนั้นก็ต่อด้วย 2. การเก็บหนังสือ 3. การคัดแยกเอกสาร 4. ของจิปาถะ หมวดที่ 1 5. เศษเหรียญ 6. ของจิปาถะ หมวดที่ 2 7.ของที่มีคุณค่าทางจิตใจ และ 8. ภาพถ่าย

นอกจากนี้ คนโด มาริเอะ บอกถึงสาเหตุที่ต้องกำหนดตำแหน่งตายตัวให้ข้าวของ ควรเก็บข้าวของแต่ละหมวดหมู่ไว้เพียงจุดเดียว เพราะเราควรคำนึงถึงความสะดวกในการเก็บของเข้าที่มากกว่าความสะดวกในการหยิบออกมาใช้ ข้าวของต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเท่านั้น คือ ของที่ใช้บ่อย และของที่ไม่ค่อยได้ใช้ แล้วเลิกวางของทับกันแล้วหันมาเก็บของในแนวตั้ง เพราะของที่อยู่ด้านใต้จะได้ไม่ถูกกดทับ การจัดบ้านช่วยให้มองเห็นว่าจริง ๆ แล้วเราชอบอะไรกันแน่ และยังเป็นการเฉลิมฉลอง หรืองานเลี้ยงอำลาสุดพิเศษระหว่างบ้านกับข้าวของที่ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วจากไป การจัดบ้านทำเกิดความสมดุลระหว่างคน ข้าวของ และบ้านขึ้นมาอีกครั้ง การจัดบ้านช่วยให้โชคดี เหมือนเราได้ปรับฮวงจุ้ยทำให้บ้านโล่ง โปร่ง และเมื่อคุณได้อยู่ท่ามกลางข้าวของที่ปลุกเร้าความสุขให้คุณได้ คุณก็จะพบกับชีวิตที่เปี่ยมสุข


ที่มา :  คนโด มาริเอะ. (2558). ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้านด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว. [TX 321 ค139ช 2558]

ผู้จัดทำ :
ธนพร อินพุ่ม, บรรณารักษ์ชำนาญการ กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักวิชาการ
วิลาวรรณ์ บุตดา, เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักวิชาการ
วันที่