“เศรษฐกิจคนโสด” สร้างโอกาสทางธุรกิจ ตอบโจทย์ชีวิตคนเหงา

ผู้เรียบเรียง :
พิมพ์ธัญญา ฆ้องเสนาะ, วิทยากรชำนาญการ กลุ่มงานบริการวิชาการ 2 สำนักวิชาการ
วันที่ออกอากาศ :
2567-09
ประเภทสิ่งพิมพ์ :
หน่วยงานที่เผยแพร่ :
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สำนักวิชาการ
สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา

 

ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกมีแนวโน้มจะใช้ชีวิตเป็นโสดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภูมิภาคอเมริกา ยุโรป และเอเชีย จากข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรในหลายประเทศ และฐานข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (UN) ปี 2566 ระบุว่า มีจำนวนคนโสดทั่วโลกมากถึง 2.12 พันล้านคน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรทั้งหมดทั่วโลก โดยประเทศที่มีสัดส่วนคนโสดต่อประชากรมากที่สุดในโลก คือ เดนมาร์ก รองลงมา คือ ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ และเบลเยียม ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่พร้อมในการสร้างครอบครัว เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า และการมีวัฒนธรรมให้ความสำคัญกับความเป็นตัวตน (Individualization) ที่ชัดเจน และหยั่งรากลึกในสังคมของยุโรปมาเป็นระยะเวลายาวนาน ส่วนในเอเชีย พบว่า ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีสัดส่วนคนโสดสูงสุด อยู่ที่ 15 ของโลก โดยมีคนโสด ร้อยละ 15.5 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งสถิติดังกล่าวข้างต้นสอดคล้องกับข้อมูลสัดส่วนคนโสดในหลายประเทศ อาทิ ปี 2566 สหรัฐอเมริกา ประชากรร้อยละ 40 ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวโดยไม่มีคู่ครอง และราวอีกครึ่งหนึ่งของคนกลุ่มนี้ยังไม่สนใจในการหาคู่ครอง หรือการคบหาเพื่อสานสัมพันธ์กับใครอีกด้วย เยอรมนี คนที่เลือกจะเป็นโสด มีจำนวน 5.18 ล้านคน ญี่ปุ่น ปี 2565 พบว่า 1 ใน 4 ของประชากรวัย 30-40 ปี เป็นโสด ส่วนจีนจำนวนคนโสดกำลังเพิ่มขึ้นไปถึง 400 ล้านคน ในระยะเวลาอีกไม่นาน 
    
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะพบว่าคนโสดกำลังเป็นกลุ่มคนที่มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนสูงขึ้นทั่วโลกแล้วยังเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจและการบริโภคอย่างมาก เนื่องจากมีกำลังซื้อสินค้าและบริการสูงมากกว่าคนกลุ่มอื่น สาเหตุเกิดจากการไม่มีภาระที่ต้องรับผิดชอบสูงเท่ากลุ่มคนมีครอบครัว ทำให้สามารถตัดสินใจใช้จ่ายได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องปรึกษาใคร มักจะใช้จ่ายเพื่อตอบสนองความชอบ และความต้องการของตัวเองโดยไม่เสียดาย ซึ่งพฤติกรรมในการใช้จ่ายของคนโสดดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้เกิด “Solo Economy” หรือเรียกว่า “เศรษฐกิจคนโสด” เป็นรูปแบบเศรษฐกิจใหม่ที่เกิดจากทัศนคติและค่านิยมของคนยุคใหม่
ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีความเหงา และรูปแบบการใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจของคนโสดจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นการสร้างโอกาสของภาคธุรกิจในการผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์คนโสดที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวได้อย่างมีความสุข และคลายความเหงาได้  เช่น

  1. 1. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงกลายเป็นเพื่อนคลายเหงาที่ได้รับความนิยมมาก เมื่อแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์ในลักษณะการเป็นเจ้าของเปลี่ยนเป็นการเลี้ยงด้วยความผูกพันเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ทำให้ผู้เลี้ยงสัตว์ต้องการเลือกสรรสิ่งที่ดีมีคุณภาพให้กับสัตว์เลี้ยงของตน ทั้งสินค้าและบริการ อาทิ อาหารเสริม เสื้อผ้า เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์สำหรับสัตว์เลี้ยง ร้านอาหาร/โรงแรมที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้ หรือการให้สัตว์เลี้ยงนั่งโดยสารไปพร้อมกับเจ้าของบนเที่ยวบินได้
  2. 2. ธุรกิจท่องเที่ยว การรีวิวการท่องเที่ยวคนเดียวจากสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก ทำให้แนวโน้ม “เที่ยวคนเดียว ไปเองได้” เป็นที่นิยมมากขึ้น ประกอบกับการมีแอปพลิเคชันที่ให้บริการด้านการวางแผนเส้นทาง การจองที่พัก การเช่าพาหนะ/รถบ้าน (Camping Car) และร้านอาหาร ทำให้คนเกิดความกล้า และอยากที่จะออกไปท่องเที่ยวคนเดียวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเติบโตขึ้นตามไปด้วย เช่น ธุรกิจโรงแรมในลักษณะแคปซูลโฮเทลในญี่ปุ่น หรือ ธุรกิจ “Oh My Oppa!” ซึ่งเป็นบริการให้เช่าโอปป้าเป็นเพื่อนเดินทางท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาษา เพราะโอปป้าแต่ละคนสามารถพูดภาษาอังกฤษ และภาษาอื่น ๆ ได้ เช่น ภาษาจีน ญี่ปุ่น สเปน เป็นต้น
  3. 3. ธุรกิจร้านอาหาร ร้านอาหารส่วนใหญ่มักถูกออกแบบมาสำหรับลูกค้าเป็นกลุ่ม แต่เมื่อแนวโน้มการรับประทานอาหารคนเดียว (Solo Diner) เริ่มเป็นที่นิยม ธุรกิจร้านอาหารต่าง ๆ จึงมีการปรับตัว และพัฒนาการให้บริการลูกค้า ทั้งการจัดสรรที่นั่ง เพิ่มเมนูอาหารจานเดียว จัดเตรียมอุปกรณ์และของใช้ต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร เช่น หม้อต้มชาบู หรือกระทะปิ้งย่าง สำหรับการรับประทานอาหารคนเดียว เป็นต้น 
  4. 4. ธุรกิจที่พักอาศัย ลักษณะที่พักอาศัยซึ่งมีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่เกินไป เพื่อง่ายต่อการดูแล มีความปลอดภัย และความสะดวกสบาย มักจะตอบโจทย์ความต้องการของคนโสด จึงเป็นโอกาสให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในการนำเสนอบ้านสำเร็จรูป ซึ่งมีการออกแบบที่เรียบง่าย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน สามารถโยกย้ายบ้านไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว หรือการมีโครงการตลาดบ้านเช่า (Build-To-Rent) ซึ่งเป็นการสร้างบ้านเพื่อให้บรรดาเหล่าคนโสดมาเช่าอยู่รวมกันในลักษณะชุมชน 
  5. 5. ธุรกิจสินค้าขนาดเล็ก (Small Goods) การอยู่คนเดียวทำให้คนโสดรู้สึกว่าสิ่งของเครื่องใช้ที่มีการจำหน่ายมีขนาดใหญ่ และใช้พื้นที่จัดเก็บเกินความจำเป็น ส่งผลให้ผู้ผลิตมีการปรับตัวและหันมาออกแบบสินค้าให้มีขนาดเล็กลง หรือเป็นสินค้าแบบ Multi-Function ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เครื่องซักผ้าที่สามารถพับเก็บและขนย้ายสะดวก หรือตู้เก็บของที่กางออกมาเป็นโต๊ะได้ เป็นต้น 

สำหรับประเทศไทย พบว่า ปี 2565 มีครัวเรือนที่มีสมาชิกคนเดียวจำนวนกว่า 7 ล้านครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 26.1 ของครัวเรือนทั้งหมด ซึ่งข้อมูลของ Euromonitor ระบุว่า ไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของครัวเรือนคนเดียวสูงที่สุดในเอเชียแปซิฟิก แต่เมื่อพิจารณาธุรกิจในไทย พบว่า ยังไม่ค่อยมีการปรับตัวเพื่อตอบรับกับคนกลุ่มนี้มากนัก มีเพียงการส่งเสริมในภาคการท่องเที่ยว และธุรกิจร้านอาหารที่รองรับลูกค้าที่มาคนเดียวเท่านั้น ดังนั้น หากภาคธุรกิจไทยมีการปรับเปลี่ยนแนวคิด เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบสนองต่อคนกลุ่มดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น นอกจากจะสร้างรายได้และมูลค่าเป็นจำนวนมากให้กับภาคธุรกิจในประเทศแล้ว ยังสามารถขยายฐานตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศได้อีกด้วย

ภาพปก